การเสริมจมูก อุบล โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไรและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกันด้วย เพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะทำจมูกแบบไหนดีนั่นเอง
1.การเสริมจมูกแบบเปิด
เป็นรูปแบบการเสริมจมูกที่มักจะทำกันทั่วไป เพราะทำง่าย และสามารถแก้ไขรูปทรงจมูกได้อย่างตรงจุดมากที่สุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมามีความสวยเพอร์เฟคเป็นอย่างมาก โดยข้อดีของการเสริมจมูกด้วยวิธีนี้คือ จะมีการเบี้ยวน้อยมาก เพราะแพทย์จะออกแบบและจัดตำแหน่งของซิลิโคนที่ใส่เข้าไปได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังทำให้ดูสวยเป็นธรรมชาติจนแทบดูไม่ออกเลยทีเดียวว่าผ่านการทำจมูกมา แต่ทั้งนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกัน นั่นคือจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำนาน อาจต้องใช้ยาสลบ และหลังทำเสร็จจะต้องพักฟื้นนานกว่าวิธีอื่นเนื่องจากเกิดการบวมช้ำนั่นเอง นอกจากนี้ในเรื่องของค่าใช้จ่ายก็มีราคาสูงมากเช่นกัน
วิธีการทำ : สำหรับวิธีการทำจมูกแบบเปิด แพทย์จะกรีดจมูกเพื่อเปิดแผลและใส่วัสดุเสริมจมูกเข้าไป จากนั้นจึงเย็บปิดแผล ซึ่งแพทย์ที่ทำการเสริมจมูกจะต้องมีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะด้วย
2.การเสริมจมูกแบบปิด
การเสริมจมูกอุบล แบบปิด เป็นการเสริมโดยให้แผลอยู่ด้านในจมูก ซึ่งได้รับความนิยมมากทีเดียว โดยข้อดีของการทำจมูกด้วยวิธีนี้คือใช้เวลาทำไม่นาน และพักฟื้นน้อยกว่าการทำจมูกแบบเปิด เพราะแผลมีขนาดเล็กมากจึงสมานได้เร็ว ทำให้คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการดูแลรักษามากนัก แถมค่าใช้จ่ายในการเสริมจมูกก็ไม่แพงอีกด้วย เหมาะกับคนที่มีงบน้อยแต่อยากมีจมูกสวยๆ เป็นที่สุด แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกัน นั่นคือเสี่ยงต่อการที่จมูกจะเบี้ยวได้ง่าย และอาจตกแต่งจมูกได้ไม่ค่อยเรียบเนียนมากนัก เนื่องจากการเปิดแผลด้านในจมูกทำให้มองเห็นรูปทรงของโครงจมูกได้ไม่ชัดเจนเหมือนแบบเปิดนั่นเอง
วิธีการทำ : การทำจมูกแบบปิด แพทย์จะเปิดแผลจากด้านในรูจมูกเป็นแผลเล็กๆ และใส่วัสดุสำหรับเสริมจมูกเข้าไปตั้งแต่สันไปจนถึงปลายจมูก
สำหรับใครที่ต้องการเสริมจมูก อุบล ก็ลองพิจารณากันดูว่าจะทำจมูกด้วยวิธีไหนดี หรือหากไม่มั่นใจก็สามารถสอบถาม ปรึกษากับแพทย์ที่รับทำจมูกก่อนก็ได้ เพราะแต่ละคนมีรูปทรงของจมูกที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องดูก่อนว่าควรปรับแต่งตรงไหนอย่างไรบ้าง และควรใช้วิธีไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด
การเสริมจมูกอุบล แบบปลายปิด และแบบปลายเปิด

